เปิดปม หมอปลา พาสื่อบุกจับเจ้าอาวาสวัดฉาวมั่วสีกาคากุฏิ

เปิดปม หมอปลา พาสื่อบุกจับเจ้าอาวาสวัดฉาวมั่วสีกาคากุฏิ

ข่าว เจ้าอาวาส วัดบางหญ้าแพรก เปิดสาเหตุ หมอปลา พาสื่อบุกกุฏิวัดดังสมุทรปราการ พบพระมั่วสีกาอยู่จริง ข้างในยังมีเหล้า เบียร์ แช่ตู้เย็น ล่าสุดจับสึกแล้ว ตำรวจสอบเอาผิดต่อ หลังจากช่วงค่ำวานนี้ (9 พ.พ.65) “หมอปลา” นายจีระพันธ์ เพชรขาว พากองทัพนักข่าวบุกวัดดัง ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าพาสีกาเข้ามาอยู่ในกุฏิ และอยู่ครั้งละนาน ๆ แถมยังมีพฤติกรรมดื่มสุราอีกด้วย โดยเมื่อเดินทางมาถึงที่หน้ากุฏิ พระสมุห์ประสาทพร มหาปุญโญ เจ้าอาวาสวัดดังกล่าว ต้องเคาะเรียกอยู่านจึงยอมลงมาเปิดประตูให้ และเมื่อตรวจสอบก็พบว่ามีผู้หญิงอยู่ด้วยจริง

แม้ตอนแรก เจ้าอาวาส วัดบางหญ้าแพรก 

พยามปฏิเสธ แต่ในกุฏิพบ มี”ยางรัดผมสีดำ” ตกอยู่บนที่นอนเจ้าอาวาส พอนักข่าวถาม เจ้าอาวาสรีบชี้แจงว่ายางรัดผมดังกล่าว ตัวเองเอาไว้รัดศีรษะแก้ปวดหัว นอกจากนี้ยังพบ”เสื้อชั้นในสีฟ้า” ตกอยู่ที่พื้นใต้บันไดทางขึ้นชั้นสอง เมื่อผู้สื่อข่าวเปิดผ้าจีวรออกจึงพบว่ามีหญิงสาวนั่งขดตัวกอดเสื้อผ้าอยู่ในสภาพไม่สวมชุดชั้นใน แอบซ่อนตัวในจุดดังกล่าว

นอกจากนี้ในกุฏิยังพบเหล้าซุกซ่อนอยู่ใต้โต๊ะหมู่บูชา จำนวน 2 แบน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมดื่มอีก 1 ลัง วางอยู่ข้างตู้เย็น โดยที่ในห้องก็มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมดื่มชนิดเดียวกันแช่อยู่จำนวน 2 ขวด

ด้าน หมอปลา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านในพื้นที่ไปร้องเรียนกับตนที่เพชรบุรี ว่าเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้หญิงสาวเข้าออกกุฏิบ่อยครั้งในช่วงเวลากลางคืน โดยมีหลักฐานเป็นภาพหญิงสาวคนดังกล่าวที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเอาไว้ได้ ปั่นจักรยานเข้ามาในวัดและเดินหายเข้าไปในกุฏิเจ้าอาวาส

ภายหลังจับได้ว่าเจ้าอาวาสซ่อนสีกาไว้จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เวลาเคลียร์พื้นที่อยู่นาน เพราะมีชาวบ้านแห่มาดูเหตุการณ์จำนวนมาก หลายคนตะโกนสาปแช่งทั้งเจ้าอาวาสและหญิงสาวคนดังกล่าว ขณะที่กำลังคุมตัวออกจากพื้นที่เพื่อพาเจ้าอาวาส ไปทำการสึกยังวัดทรงธรรม ก่อนที่จะพาตัวกลับมาทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.สำโรงใต้

โดยหลังจากสอบปากคำเบื้องต้น นายสมุทร อดีตเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว ยอมรับว่า การที่อยู่สองต่อสองกับหญิงสาวในยามวิกาลและในที่ลับตาคนมันก็ผิดแล้วโลกติเตียน จึงสมัครใจสึกจากการเป็นพระ ส่วนเรื่องอื่นๆ ยังไม่ยอมให้การใดๆ ซึ่งจากนี้จะมีการสอบสวนตามกระบวนการก่อน เช่นเดียวกับผู้หญิง ที่ก็ต้องสอบสวนด้วยเช่นกัน

ไม่ใช่ ฆ่าหั่นศพ! ตร. พบหลักฐานหญิงโดดน้ำ คาดถูกใบพัดเรือตัดร่างกระจาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจเผย คดีสยองไม่ใช่การ ฆ่าหั่นศพ หลังพบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดพบว่าหญิงโดดน้ำ คาดถูกใบพัดเรือตัดร่างกระจาย จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบร่างของ น.ส.มณีรัตน์ กระจกภาพ หญิงอายุ 28 ปี ลอยเป็นชิ้นส่วนกระจัดกระจาย ไปในแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองบางกอกใหญ่ ในสภาพสยดสยองโดยศีรษะไปทาง ลำตัวและขาทั้ง 2 ข้าง ลอยไปคนละเส้นทาง ถึง 4 จุด

ล่าสุดทางเจ้าที่ตำรวจ ชุดคลี่คลายคดี นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. และ พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 พบหลักฐานชิ้นใหม่เป็นภาพกล้องวงจรปิดบนสะพานพระราม 8 ในช่วงเที่ยงวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา

ซึ่งจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่า ผู้ตายได้กระโดดจากสภาพ ซึ่งในช่วงเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงปลอดคน ทำให้ไม่มีผู้พบเห็นเหตุการณ์ โดยเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ร่างน่าจะถูกใบพัดเรือขนาดใหญ่ ซึ่งแล่นสัญจรผ่านไปมา ตัดจนขาดออกเป็นหลายส่วน

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า ในแต่ละวันแก๊งเงินกู้จะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนโทรกันมาทวงหนี้จากหญิงสาวที่ชื่อบัวผันวันละหลายสาย แต่จะมีคนทวงหนี้ที่เป็นผู้ชายคนหนึ่งลักษณะพูดไม่ชัดเหมือนคนลิ้นไก่สั้น เมื่อโทรมาแล้วตนรับสายปุ๊ป จะเจอด่าทอ ข่มขู่ด้วยถ้อยคำรุนแรงก่อนเลย พูดอธิบายอะไรไปก็ไม่ฟัง ด่าอย่างเดียว เจอด่าวันแรกๆ ไม่เท่าไร แต่ถูกโทรมาด่าบ่อยๆ ทุกวันแบบนี้ก็เสียสุขภาพจิตเหมือนกัน

“อยากให้หญิงสาวที่ชื่อบัวผันเลิกตั้งโอนปลายสายมาที่โรงพักเสียที เพราะนอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเสียสุขภาพจิตแล้ว ยังเกรงว่าหากเวลาเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายขึ้นมาจริงๆ มีประชาชนคนอื่นจะโทรมาแจ้งเหตุก็จะเสียเวลารอสายเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจติดสายจากแก๊งเงินกู้ที่โทรทวงหนี้วันละหลายๆ ครั้ง” ด.ต.อัครพงษ์ กล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสอบสวน หลังพบ ชิ้นส่วนมนุษย์ ลอยในแม่น้ำเจ้าพระยา ยืนยันรู้ตัวผู้เสียชีวิตแล้ว ตำรวจพร้อมเผย อาจจะไม่ใช่เหตุ ฆ่าหั่นศพ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบ พบชิ้นส่วนมนุษย์ลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา 4 จุด รวม 3 พื้นที่ สน.บางกอกน้อย สน.บุปผาราม และ สน.ตลิ่งชัน เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 9 ก.พ. ซึ่งจากการตรวจสอบทำให้ทราบว่า ชิ้นส่วนมนุษย์ดังกล่าวเป็นของ น.ส.มณีรัตน์ กระจกภาพ อายุ 28 ปี

หลังจากที่บุคคลในครอบครัวยืนยัน กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตำหนิรูปพรรณ โดยเฉพาะรอยสักด้านหลัง รวมถึงสีเล็บ และเครื่องประดับต่างๆ ที่พบบนตัวศพ ตรงกับ น.ส.มณีรัตน์ ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป