เที่ยวยังไงให้โดนจับ ผอ.ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล แจ้งจับ นักท่องเที่ยวหนุ่มนั่งทับปะการัง โทษหนักจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ วันนี้ (13 ก.พ. 65) นายวิสูตร อายุ 45 ปี ได้เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา หลังจากตนเองถูก นายวุฒิพงษ์ วงศ์อินทร์ ผอ.ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ ให้เอาผิดเพื่อดำเนินคดีในข้อหา การล่าหรือทำอันตรายด้วยปะการอื่นใดแก่สัตว์ป่า ที่ไม่มีเจ้าของและอยู่อย่างเป็นอิสระ ตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 3 ประกอบ มาตรา 12 โดยมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยชายคนดังกล่าวสารภาพว่าเป็นบุคคลในรูปที่ไปนั่งทับบนปะการัง บริเวณเกาะครามน้อย ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
แล้วนำภาพไปโพสต์บนเฟซบุ๊ก เจ้าตัวอ้างว่าไม่ทราบ เป็นปะการัง คิดว่าเป็นโขดหินใต้ท้องทะเล โดยรูปนี้ได้ถ่ายไว้เมื่อประมาณ 1 ปีมาแล้ว แต่เพิ่งนำมาโพสต์เมื่อวานนี้ (12 ก.พ.65) ก่อนจะถูกแจ้งดำเนินคดี ซึ่งต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีเจตนาทำร้ายปะการัง เพียงแค่อยากจะไปถ่ายรูปกับธรรรมชาติใต้ท้องทะเลเท่านั้น
ด้าน นายวุฒิพงษ์ ผู้เข้าแจ้งความดำเนินคดี กล่าวว่า จากการตรวจสอบตามรูปภาพพบว่า เป็นปะการังชนิด “ปะการังโขด” เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามบัญชีแนบท้ายกฎกระทรวง สัตว์ป่าไม่มีกระดูกสันหลังอื่นๆ การกระทำในลักษณะดังกล่าวทำให้หนวดของปะการรังหดตัวและหลั่งเมือกออก ส่งผลต่อการสังเคราะห์แสงและอัตราการเติมโตลดลง ปะการังอาจเกิดการฟอกขาวและอาจตายได้
ทั้งนี้อยากขอฝากเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวดูปะการัง ให้ช่วยกันสอดส่องและรักษาสิ่งแวดล้อม ห้ามไปสัมผัส หรือโยกย้ายปะการัง โดยเด็ดขาด หากพบเห็นหรือตรวจพบ ทั้งในโลกออนไลน์หรือต่อหน้า จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
ชิงทรัพย์ร้านทอง ล่าสุด วันนี้ ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัว 3 คนร้าย ปล้นทองยิงลูกค้าเสียชีวิตที่อ.พบพระ จ.ตาก กล้องวงจรปิดจับภาพชัดนาทีอุกอาจ จากกรณีเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายบุกปล้นร้านทอง กรุงเทพ 4 ในพื้นที่ตำบลพบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยคนร้ายใช้รถยนต์กระบะเป็นพาหนะ พร้อมอาวุธปืนสั้น ไม่ทราบขนาดยิงบานประตูกระจก และใช้ค้อนที่พกมาทุบกระจก เข้าไปในร้าน
เหตุการณ์นี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งทราบว่าเป็นลูกค้าชายที่เข้ามาใช้บริการที่ร้าน ขณะที่กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ปล้นทองรูปพรรณจำนวนหนึ่งและหลบหนีไป
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพบพระและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากลงพื้นที่เก็บหลักฐานและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งสามารถบึนทึกภาพคนร้าย จำนวน 3 คน สวมเสื้อผ้ามิดชิด และสวมหมวกกันน็อค ในการก่อเหตุในครั้งนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลว่ากลุ่มคนร้าย 3 คน ใช้รถยนต์โตโยต้า ไมตี้เอกซ์ ตอนเดียว สีบรอนเงิน ตอนเดียว หมายเลขทะเบียน บง 1910 กำแพงเพชร โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวต่อไป
รวบหมอปลอมทำผิดซ้ำซาก อ้างหาเงินใช้ ทำอย่างอื่นไม่เป็น
ตํารวจสอบสวนกลาง รวบ แนน ณัฐชานันท์ สวมรอยเป็นหมอ กระทําความผิดซ้ำซาก อ้างหาเงินใช้ ไปทำอย่างอื่นไม่เป็น วันนี้ (13 ก.พ.65) พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. แถลงผลการปฏิบัติงาน จับกุมผู้ต้องหาสวมตัวรอยเป็นหมอรับจ้างทํางานในคลินิก ผู้ต้องหา น.ส.ณัฐชานันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี
แจ้งข้อกล่าวหา ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ใช้คําหรือข้อความที่แสดงให้ ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีประกอบวิชาชีพเวชกรรม ,ฉ้อโกง โดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น เพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สิน และ เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายผู้อื่นหรือประชาชน
น.ส.ณัฐชานันท์ หรือ แนน มีพฤติกรรมหลอกเอาเอกสารใบประกอบวิชาชีพแพทย์ นํามาสวมรอยเป็นแพทย์ เข้าไปทํางานในคลินิกจํานวนหลายแห่ง ถูกเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.4 บก.ป คบ. จับกุมดําเนินคดีตามกฎหมาย มาหลายครั้ง
ครั้งล่าสุดถูกจับกุมตัวได้บริเวณริมถนนประชาสงเคราะห์ แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. ตรวจสอบ มีคดี อยู่ระหว่างสอบสวนไปจนถึงส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ และรอการพิจารณาคดีในชั้นศาล อีก 4 คดี และในระหว่างที่ผู้ต้องหาประกันตัวไป ได้นําใบประกอบวิชาชีพของแพทย์หญิงเอ (นามสมมุติ) สวมรอยเป็น แพทย์ทํางานในคลินิกจํานวนทั้งหมด 3 แห่ง
เบื้องต้นเป็นความผิดฐาน “เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นใน ประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น” โดยพนักงานสอบสวนจะเรียกคลินิกดังกล่าวมาสอบสวนปากคําและรวบรวม พยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป จากนั้นพนักงานสอบสวนได้นําตัว น.ส.ณัฐชานันท์ฯ ไปฝากขังต่อศาล อาญาธนบุรี
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามผู้ต้องหาถึงสาเหตุที่กระทําความผิดในลักษณะเดิมซ้ำหลายครั้ง น.ส.ณัฐชานันท์ฯ อ้างว่าตนต้องการเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจําวันและตนทําอย่างอื่นไม่เป็น จึงต้องหวนกลับมากระทําความผิดในลักษณะเช่นเดิมอีก
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป